หัวข้อเหล่านี้เป็นหัวข้อที่ทำให้ทุกคนเริ่มเขียนนิยายไม่ได้สักที
ด้วยเหตุเพราะว่า.. จะเริ่มแบบไหนถึงจะดี หรือจะเปิดตัวแบบไหนถึงจะสมอารมณ์คนแต่ง วันนี้พี่สาวมีเกร็ดเล็กๆ(อีกแล้ว)มาฝาก
เรามาดูกันว่ามีกี่วิธีที่จะเปิดเรื่องหรือเริ่มฉากใหม่ๆ กันอย่างไรบ้าง
1.เริ่มจากการบรรยายตัวละคร
เช่นว่า นาย A ยืนอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ มันเป็นคนนิสัยอย่างไร และตอนนี้มันกำลังเจออะไร
เช่นว่า นาย A ยืนอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ มันเป็นคนนิสัยอย่างไร และตอนนี้มันกำลังเจออะไร
ตัวอย่าง
เอวิทย์เป็นเด็กที่ขี้สงสัย เขามักหมกมุ่นกับเรื่องลี้ลับในห้องสมุดเป็นเวลานาน โดยสิ่งที่เด็กชายกำลังค้นคว้าและหาคำตอบอยู่นั้น คือเรื่อง ‘ควายบิน’
2.เริ่มจากดินฟ้าอากาศ
ตั้งแต่ดวงดาว ท้องฟ้า สภาวะของสิ่งแวดล้อม พายุเข้า สึนามิมา แผ่นดินไหว ตึกถล่มอะไรก็ว่าไป
ตั้งแต่ดวงดาว ท้องฟ้า สภาวะของสิ่งแวดล้อม พายุเข้า สึนามิมา แผ่นดินไหว ตึกถล่มอะไรก็ว่าไป
ตัวอย่าง
ท้องฟ้าคืนนี้ขมุกขมัวไม่ค่อยปลอดโปร่งเท่าไหร่ เมฆบางส่วนลอยเอื่อยปกปิดแสงจันทร์ แต่กระนั้นเอวิทย์ก็สามารถมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่กำลังลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าได้อย่างถนัด และมันก็ไม่ใช่เครื่องบิน หรือก้อนเมฆ แต่มันเป็น ควาย ตัวหนึ่ง
3.เกริ่นนำสถานที่
เช่นว่า สถานที่นี้เป็นมาอย่างไร มันมีสภาพแบบไหน และตัวเอกมาทำอะไร
เช่นว่า สถานที่นี้เป็นมาอย่างไร มันมีสภาพแบบไหน และตัวเอกมาทำอะไร
ค่ายบางระจัน เป็นสถานที่หนึ่งซึ่งปรากฏอยู่บนหน้าประวัติศาสตร์มาช้านาน แม้ในตอนนี้สภาพของมันจะไม่ต่างอะไรกับเมืองร้าง แต่เอวิทย์ก็ชมชอบ และใฝ่ปองอยากมาเยือนที่แห่งนี้ด้วยตัวเองเสมอ แม้มันจะเหลือเพียงก้อนอิฐ ก้อนหินให้ชายหนุ่มได้รำลึกถึงคืนวันเก่าๆ เท่านั้น
4.เริ่มต้นด้วยคำอุทาน
เช่นว่า เปิดเรื่องมาแล้วอุทาน ตกใจ หรือพบเห็นอะไรบางอย่างจนเกิดเรื่องราว
เช่นว่า เปิดเรื่องมาแล้วอุทาน ตกใจ หรือพบเห็นอะไรบางอย่างจนเกิดเรื่องราว
ตัวอย่าง
“เห้ย!” เอวิทย์อุทานออกมาเมื่อเขาเห็นตัวอะไรบางอย่างกำลังบินได้ และลักษณะของมันคล้ายกับสัตว์ที่เขาเคยเลี้ยง
“ควายบิน”
ซึ่งใครเลือกที่จะเปิดตัวนิยายแบบนี้ก็เป็นวิธีที่ง่ายดีเหมือนกันนะ แต่ความสนิทสนมของตัวละครที่จู่ๆ โผล่มาเลยจะทำให้คนอ่านสงสัย และติดตามว่า “ไอ้ เอวิทย์นี่มันเป็นใคร แล้วตัวอะไรฟะนั่น” จึงทำให้ต้องวกเข้ามาบรรยายถึงตัวเอกหลังจากที่เริ่มเรื่องไปได้สักพักแล้ว ว่าหมอนี่มันเป็นใครกันแน่(จริงๆ พี่สาวนึกชื่อตัวละครตัวอย่างไม่ออก เลยเอานาย A จากบทก่อนๆ มาเติมวิทย์ให้มันเป็นตัวละครไทยๆ ซึ่งเป็นวิธีที่สิ้นคิดมาก ห้าๆ)
5.เปิดตัวฉากหรือเรื่องด้วยคำเอฟเฟค
ดูตัวอย่างเอาเลย
ดูตัวอย่างเอาเลย
ตัวอย่าง
ตู้ม!!
เสียงอะไรบางอย่างกระแทกหลังคารถเก๋งคันหรูของเอวิทย์อย่างแรง ขณะที่สายตาของชายหนุ่มจดจ้องไปที่ถนนข้างหน้าด้วยอาการตื่นตระหนก
พลั่ก!!
เอวิทย์ตาเหลือกขึ้นทันที เมื่อเจ้าของเสียงปริศนาที่ชนเข้ากับหลังคารถของเขาเมื่อครู่ลอยหวือไปอยู่เบื้องหน้ากระโปรงรถ
ชายหนุ่มรู้ดีว่ามันเป็นตัวอะไร..
“ควายยยยยยย”
6.เริ่มต้นด้วยบทสนทนา
ก็เริ่มประโยคด้วยการให้ตัวละครสองตัวหรือมากกว่านั้นคุยกันเพื่อสร้างเรื่องขึ้น
ก็เริ่มประโยคด้วยการให้ตัวละครสองตัวหรือมากกว่านั้นคุยกันเพื่อสร้างเรื่องขึ้น
ตัวอย่าง
“แกว่าโลกนี้จะมีอะไรลึกลับหรือเปล่า? บีศักดิ์” ชายหนุ่มร่างผอมเกร็งเอ่ยถามคู่หูขณะดื่มสุราที่ชานกระท่อมชายป่า
“ข้าว่ามีนะ เพราะข้าเคยเห็น” บีศักดิ์หลิ่วตาลงเล็กน้อย “เห็นทุกๆ วันเลยเชียวล่ะ”
พูดจบบีศักดิ์ก็ค่อยๆ ก้มตัวลง เขาทำท่าทางเหมือนคลาน ก่อนที่อะไรบางอย่างจะงอกออกมาจากศีรษะ พร้อมเสียงโอดครวญอย่างเจ็บปวด
“เอวิทย์ แกทำให้ฉันเป็นแบบนี้เองนะ” บีศักดิ์สบถ ขณะที่เสื้อผ้าเริ่มฉีกขาด ผิวเริ่มเปลี่ยนสี
“บีศักดิ์ แกเองใช่ไหมที่เป็นควายบิน”
"ใช่! เพราะแกนั่นแหละที่สวมเขาให้ข้า" ควายยักษ์ตะคอก "บังอาจเป็นชู้กับเมียตู ทุกวัน ตายซะ"
........
เข้าเรื่อง จากที่พี่สาวได้ยกตัวอย่างกันมาให้ชมนั้น มันเป็นเพียงการเปิดตัวแต่ละแบบที่สามารถจับประเด็นมาพูดบรรยายได้(ซึ่งทั้งหมดก็ไม่น่าจะพ้นวิธีพวกนี้)
เพราะนี่เป็นการเปิดตัวแบบบุรุษที่สาม ซึ่งการเปิดตัวแบบบุรุษที่หนึ่ง และสองก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่
ประเด็นแรกเลยเท่าที่เคยเจอปัญหามาคือคิดฉากเริ่มต้นไม่ได้
วิธีแก้นั้นไซร้ ให้นำโครงเรื่องมากางดู แล้วหาช่องเปิดตัวใหม่จากโครงเรื่องที่วางไว้ ว่าเปิดแบบไหนถึงจะสะกดคนอ่านได้ตั้งแต่แรก แล้วนำมาเลือกวิธีเปิดตัวจากข้อ 1-6 ซึ่งพี่สาวได้ยกตัวอย่างไว้ให้ดูแล้ว
บอกตามตรงว่านี่เป็นเพียงพื้นฐาน ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จนถึงระดับอาชีพ
ส่วนใครที่คิดวิธีเปิดเรื่องได้นอกเหนือจากนี้ ก็นำมาแชร์กันบ้างนะเจ้าคะ เพราะการเปิดเรื่อง เริ่มฉาก หรือบทนำนั้นไม่มีคำว่าตายตัว และมันอาจจะไม่ได้มีเพียง 6 วิธีนี้เท่านั้น
(มีคำแนะนำมาแชร์ มาอ่านกันที่ด้านล่างในส่วนคอมเม้นต์นะเจ้าคะ)
(มีคำแนะนำมาแชร์ มาอ่านกันที่ด้านล่างในส่วนคอมเม้นต์นะเจ้าคะ)
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า หากสังเกตจากตัวอย่างที่พี่สาวยกมา มันเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ซึ่งหากใช้วิธีเปิดตัวแต่ละแบบ อารมณ์ของเรื่องก็จะแตกต่างกันออกไป
ดังนั้นจึงควรเลือกวิธีเปิดตัวให้เข้ากับบรรยากาศของเรื่องด้วย เพื่อให้ธีมของเรื่องไม่หลุดจากกรอบ จนทำให้คนอ่านต่ออารมณ์ไม่ติดนะเจ้าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น