วิธีบรรยายให้นิยายอกมาแล้วอ่านได้ลื่นไหล
การเล่าเรื่อง คือ การบอกว่าตอนนั้นๆ เรื่องดำนินอยู่ในเหตุการณ์ไหน ที่ไหน ฉากไหน โดยจะไม่มีการพรรณนาถึงรายละเอียดที่ลึกกว่านี้
การบรรยาย คือ การเพิ่มเติมรายละเอียดลงไปในการเล่าเรื่อง เป็นการพรรณนาถึงสิ่งต่างๆในฉากและเหตุการณ์ในเรื่องตรงนั้น
การเล่าเรื่อง:
เราต้องรู้ก่อนว่าพล็อตเรื่องของเรานั้นเป็นอย่างไร(อย่างน้อยต้องกำหนดแล้ว ว่าเริ่มเรื่องเป็นยังไง ตอนจบเป็นยังไง) เมื่อเรากำหนดพล็อตเรื่องแล้วแบ่งเป็นพล็อตย่อยลงไปเรื่อยๆ จนถึงเหตุการณ์และฉากย่อยต่างๆ เราก็ต้องกำหนดว่าฉากนั้นเป็นเช่นไร เกิดอะไรขึ้น โดยยังไม่มีการพรรณนาถึงรายละเอียด
*ในบอร์ดนี้นั้นจะเน้นไปในเรื่องของการบรรยายมากกว่านะครับ*
การบรรยาย:
เมื่อเรารู้แล้วว่าในฉากที่เรากำลังจะเขียนนั้นเป็นอย่างไร ก็ถึงเวลาที่จะต้องแต่งเติมรายละเอียด พรรณนาถึงสิ่งนั้นเพิ่มขึ้น
เช่น โครงเรื่องมีอยู่ว่า
"เด็กชายไปเดินชายหาด เกิดลมพัด"
การเล่าเรื่อง-"เด็กชายคนหนึ่งเดินเล่นบนชายหาดแห่งหนึ่ง สักครู่ก็เกิดลมพัด"
การบรรยาย-"เด็กชายร่างเล็กคนหนึ่งเดินเล่นตามชายหาดที่หนึ่ง เม็ดทรายสีทองส่องประกายยามกระทบแสง เมื่อเด็กน้อยเดินมาได้ไม่นาน ก็เกิดลมพัดอ่อนๆพากลิ่นเกลือในทะเลเข้าหาฝั่ง"
จะเห็นว่าเมื่อเติมคำบรรยายเพิ่มเข้าไปแล้ว ก็จะทำให้เนื้อเรื่องน่าอ่านยิ่งขึ้นไปอีก
การบรรยายสามารถบรรยายได้หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากำลังบรรยายอยู่
1.สถานที่
การบรรยายสถานที่ เราจะต้องนึกก่อนว่าสถานที่นั้นๆมีลักษณะเป็นอย่างไร ถ้าเป็นสถานที่ยืมมาจากของจริงจะทำให้แต่งง่ายขึ้น
การบรรยายลักษณะสถานที่ที่เป็นป่า-"...ปรากฏชายป่าแห่งหนึ่งบนผืนดินอันแห้ง แล้ง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพียงส่วนเดียวที่อุดมสมบูรณ์ของบริเวณนี้ เสียงธรรมชาติต่างขับร้องผสานกันราวกับเสียงเพลง มีทั้งเสียงนกร้อง เสียงน้ำตกใสที่กระทบกับแหล่งน้ำ..."
แค่ป่าๆเดียวก็สามารถทำให้เนื้อเรื่องน่าสนยิ่งขึ้น เพียงเติมคำบรรยายลงไป ข้อควรระมัดระวังคือ ถ้าจะบรรยายลักษณะมีการเปรียบเทียบอย่าให้มันมาก เช่น
การบรรยายอาคารหินอ่อน-"...อาคารทรงลูกบาสก์ขนาดใหญ่หลังหนึ่งตั้งเด่นอยู่ ตรงหน้า สีงาช้างนวลของตัวอาคารบ่งบอกว่าทำมาจากหินอ่อนที่ได้รับการขัดให้ผิวเรียบ อย่างดี หากมองเผินๆแล้วราวกับพระราชวังหรือคฤหาสน์ซํกหลังเป็นแน่ ซุ้มประตูหินอ่อนขนาดใหญ่หน้าตัวอาคารถูกตกแต่งอย่างดี เหมือนกับเตรียมการต้อนรับใครซักคน..."(การบรรยายสถานที่อันนี้ควรเพิ่มเติม อีกนิด)
ถ้าเปรียบเทียบมากจนเกินไปจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อซักก่อน ดังนั้นใส่รายละเอียดอย่าให้ยาวมากเป็นจะดี ให้ผู้อ่านอ่านแล้วรู้ลักษณะคร่าวๆของตัวอาคารนั้นเป็นพอ
2.สิ่งของ
การบรรยายสิ่งของนั้นง่ายกว่าสถานที่มาก ความยาก-ง่ายขึ้นอยู่กับลักษณะของๆนั้น
เช่น
-เก้าอี้อย่างหรู “…เก้าอี้ตัวหนึ่งวางอยู่เบื้องหน้าเขา รูปร่างเหมือนเก้าอี้ทั่วไปทุกประการ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น ฝุ่นและหยากไย้เกาะเต็มตัวเก้าอี้ หากแต่ตัวเก้าอี้นั้นยังคงสภาพไว้อย่างดีราวกับเพิ่งซื้อมันมา ต่างจากสภาพโดยรอบ บ่งบอกเจ้าของเก้าอี้ตัวนี้ต้องเป็นคนที่มีฐานะพอดู...”
ประมาณนี้ล่ะครับ ถ้าใครอยากใส่อะไรที่หรูกว่านี้ก็ใส่ไป แต่ไม่ควรที่จะให้เยอะเกินไป ควรทำแบบรวบรัดจะดีที่สุด
3.บุคคล
การบรรยายลักษณะรูปร่างของคนนั้นง่ายที่สุดแล้ว เพราะไม่มีอะไรมาก
เช่น
-ผู้หญิงผมเหลือง ตาสีเขียว หน้าตาสะสวย “...ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นจุดเด่นอย่างประหลาดสำหรับที่สวยงามเช่นนี้ เรือนผมงามสลวยยาวสีอำพันของเจ้าหล่อนลู่กับแผ่นหลังเรียว นัยน์ตาสีมรกตแฝงด้วยแววมุ่งมั่นและอำนาจ ใบหน้ารูปไข่รับกับริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อ เจ้าหล่อนถือเป็นคนสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว หากแต่ชายใดก็คงไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะรังสีกระหายอำนาจอย่างเหลือล้นที่แผ่ออกมา...”
การบรรยายเมื่อตัวละครพูด:
ปัญหาเรื่องนี้มีไม่มากนักแต่เราก็ควรรู้ไว้ หลังจากเขียนบทพูดเสร็จ เราอาจตามด้วยประโยค “…(ชื่อตัวละคร)เอ่ย พูด กระซิบ ถาม ตะโกน ตอบกลับ ฯลฯ หรือ ท่าทางต่างๆ และบางทีถ้าประโยครัวจัดล่ะก็ อาจเอาแค่บทพูดเปล่าๆไป เพราะผู้อ่านก็พอจะนึกออกว่าใครพูด(ถ้า 2 คนจะง่าย) แต่อย่าให้ถี่มากนัก
เช่น
- “นี่ คุณเอดูอะไรนั่นซิครับ” หนุ่มร่างสูงนาม ซี เอ่ยเรียกเพื่อนข้างตัว ผู้กำลังสาละวนกับงานของจนอยู่
“ไหน มีอะไร” เอเงยหน้ามาจากกองเอกสารงาน แล้วมองตามที่นิ้วเรียวของผู้เป็นเพื่อนชี้ไป
“มีอะไรกันหรอ” บี หญิงสาวผู้มีกิจวัตรประจำวันคือแส่ไปทุกเรื่อง เดินมาทางคนทั้งสอง
“เธอไม่เกี่ยว” เอเอ่ยขึ้น หากแต่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพตรงหน้า
“ใช่ เห็นด้วย”
จบแล้วล่ะค่ะ เพราะนึกอะไรไม่ออกแล้ว ใครมีข้อคิดเห็นอะไรก็ช่วยกันเม้นเพิ่มนะ ;’)
การเล่าเรื่อง คือ การบอกว่าตอนนั้นๆ เรื่องดำนินอยู่ในเหตุการณ์ไหน ที่ไหน ฉากไหน โดยจะไม่มีการพรรณนาถึงรายละเอียดที่ลึกกว่านี้
การบรรยาย คือ การเพิ่มเติมรายละเอียดลงไปในการเล่าเรื่อง เป็นการพรรณนาถึงสิ่งต่างๆในฉากและเหตุการณ์ในเรื่องตรงนั้น
การเล่าเรื่อง:
เราต้องรู้ก่อนว่าพล็อตเรื่องของเรานั้นเป็นอย่างไร(อย่างน้อยต้องกำหนดแล้ว ว่าเริ่มเรื่องเป็นยังไง ตอนจบเป็นยังไง) เมื่อเรากำหนดพล็อตเรื่องแล้วแบ่งเป็นพล็อตย่อยลงไปเรื่อยๆ จนถึงเหตุการณ์และฉากย่อยต่างๆ เราก็ต้องกำหนดว่าฉากนั้นเป็นเช่นไร เกิดอะไรขึ้น โดยยังไม่มีการพรรณนาถึงรายละเอียด
*ในบอร์ดนี้นั้นจะเน้นไปในเรื่องของการบรรยายมากกว่านะครับ*
การบรรยาย:
เมื่อเรารู้แล้วว่าในฉากที่เรากำลังจะเขียนนั้นเป็นอย่างไร ก็ถึงเวลาที่จะต้องแต่งเติมรายละเอียด พรรณนาถึงสิ่งนั้นเพิ่มขึ้น
เช่น โครงเรื่องมีอยู่ว่า
"เด็กชายไปเดินชายหาด เกิดลมพัด"
การเล่าเรื่อง-"เด็กชายคนหนึ่งเดินเล่นบนชายหาดแห่งหนึ่ง สักครู่ก็เกิดลมพัด"
การบรรยาย-"เด็กชายร่างเล็กคนหนึ่งเดินเล่นตามชายหาดที่หนึ่ง เม็ดทรายสีทองส่องประกายยามกระทบแสง เมื่อเด็กน้อยเดินมาได้ไม่นาน ก็เกิดลมพัดอ่อนๆพากลิ่นเกลือในทะเลเข้าหาฝั่ง"
จะเห็นว่าเมื่อเติมคำบรรยายเพิ่มเข้าไปแล้ว ก็จะทำให้เนื้อเรื่องน่าอ่านยิ่งขึ้นไปอีก
การบรรยายสามารถบรรยายได้หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรากำลังบรรยายอยู่
1.สถานที่
การบรรยายสถานที่ เราจะต้องนึกก่อนว่าสถานที่นั้นๆมีลักษณะเป็นอย่างไร ถ้าเป็นสถานที่ยืมมาจากของจริงจะทำให้แต่งง่ายขึ้น
การบรรยายลักษณะสถานที่ที่เป็นป่า-"...ปรากฏชายป่าแห่งหนึ่งบนผืนดินอันแห้ง แล้ง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพียงส่วนเดียวที่อุดมสมบูรณ์ของบริเวณนี้ เสียงธรรมชาติต่างขับร้องผสานกันราวกับเสียงเพลง มีทั้งเสียงนกร้อง เสียงน้ำตกใสที่กระทบกับแหล่งน้ำ..."
แค่ป่าๆเดียวก็สามารถทำให้เนื้อเรื่องน่าสนยิ่งขึ้น เพียงเติมคำบรรยายลงไป ข้อควรระมัดระวังคือ ถ้าจะบรรยายลักษณะมีการเปรียบเทียบอย่าให้มันมาก เช่น
การบรรยายอาคารหินอ่อน-"...อาคารทรงลูกบาสก์ขนาดใหญ่หลังหนึ่งตั้งเด่นอยู่ ตรงหน้า สีงาช้างนวลของตัวอาคารบ่งบอกว่าทำมาจากหินอ่อนที่ได้รับการขัดให้ผิวเรียบ อย่างดี หากมองเผินๆแล้วราวกับพระราชวังหรือคฤหาสน์ซํกหลังเป็นแน่ ซุ้มประตูหินอ่อนขนาดใหญ่หน้าตัวอาคารถูกตกแต่งอย่างดี เหมือนกับเตรียมการต้อนรับใครซักคน..."(การบรรยายสถานที่อันนี้ควรเพิ่มเติม อีกนิด)
ถ้าเปรียบเทียบมากจนเกินไปจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อซักก่อน ดังนั้นใส่รายละเอียดอย่าให้ยาวมากเป็นจะดี ให้ผู้อ่านอ่านแล้วรู้ลักษณะคร่าวๆของตัวอาคารนั้นเป็นพอ
2.สิ่งของ
การบรรยายสิ่งของนั้นง่ายกว่าสถานที่มาก ความยาก-ง่ายขึ้นอยู่กับลักษณะของๆนั้น
เช่น
-เก้าอี้อย่างหรู “…เก้าอี้ตัวหนึ่งวางอยู่เบื้องหน้าเขา รูปร่างเหมือนเก้าอี้ทั่วไปทุกประการ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น ฝุ่นและหยากไย้เกาะเต็มตัวเก้าอี้ หากแต่ตัวเก้าอี้นั้นยังคงสภาพไว้อย่างดีราวกับเพิ่งซื้อมันมา ต่างจากสภาพโดยรอบ บ่งบอกเจ้าของเก้าอี้ตัวนี้ต้องเป็นคนที่มีฐานะพอดู...”
ประมาณนี้ล่ะครับ ถ้าใครอยากใส่อะไรที่หรูกว่านี้ก็ใส่ไป แต่ไม่ควรที่จะให้เยอะเกินไป ควรทำแบบรวบรัดจะดีที่สุด
3.บุคคล
การบรรยายลักษณะรูปร่างของคนนั้นง่ายที่สุดแล้ว เพราะไม่มีอะไรมาก
เช่น
-ผู้หญิงผมเหลือง ตาสีเขียว หน้าตาสะสวย “...ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นจุดเด่นอย่างประหลาดสำหรับที่สวยงามเช่นนี้ เรือนผมงามสลวยยาวสีอำพันของเจ้าหล่อนลู่กับแผ่นหลังเรียว นัยน์ตาสีมรกตแฝงด้วยแววมุ่งมั่นและอำนาจ ใบหน้ารูปไข่รับกับริมฝีปากบางสีแดงระเรื่อ เจ้าหล่อนถือเป็นคนสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว หากแต่ชายใดก็คงไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะรังสีกระหายอำนาจอย่างเหลือล้นที่แผ่ออกมา...”
การบรรยายเมื่อตัวละครพูด:
ปัญหาเรื่องนี้มีไม่มากนักแต่เราก็ควรรู้ไว้ หลังจากเขียนบทพูดเสร็จ เราอาจตามด้วยประโยค “…(ชื่อตัวละคร)เอ่ย พูด กระซิบ ถาม ตะโกน ตอบกลับ ฯลฯ หรือ ท่าทางต่างๆ และบางทีถ้าประโยครัวจัดล่ะก็ อาจเอาแค่บทพูดเปล่าๆไป เพราะผู้อ่านก็พอจะนึกออกว่าใครพูด(ถ้า 2 คนจะง่าย) แต่อย่าให้ถี่มากนัก
เช่น
- “นี่ คุณเอดูอะไรนั่นซิครับ” หนุ่มร่างสูงนาม ซี เอ่ยเรียกเพื่อนข้างตัว ผู้กำลังสาละวนกับงานของจนอยู่
“ไหน มีอะไร” เอเงยหน้ามาจากกองเอกสารงาน แล้วมองตามที่นิ้วเรียวของผู้เป็นเพื่อนชี้ไป
“มีอะไรกันหรอ” บี หญิงสาวผู้มีกิจวัตรประจำวันคือแส่ไปทุกเรื่อง เดินมาทางคนทั้งสอง
“เธอไม่เกี่ยว” เอเอ่ยขึ้น หากแต่ยังไม่ละสายตาไปจากภาพตรงหน้า
“ใช่ เห็นด้วย”
จบแล้วล่ะค่ะ เพราะนึกอะไรไม่ออกแล้ว ใครมีข้อคิดเห็นอะไรก็ช่วยกันเม้นเพิ่มนะ ;’)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น